จักรพรรดิคอนสแตนตินที่ 1 และเหล่ามุขนายกสมาชิกสภาสังคายนาถือคำประกาศหลักข้อเชื่อไนซีน หลักข้อเชื่อไนซีน [1] (อังกฤษ : Nicene Creed ; ละติน : Symbolum Nicaenum ) คือการประกาศศรัทธา และหลักข้อเชื่อที่ถูกใช้มากที่สุดในพิธีกรรม ทางศาสนาคริสต์ และเป็นบรรทัดฐานความเชื่อในคริสต์ศาสนากระแสหลักในปัจจุบัน
แม้หลักข้อเชื่อฉบับนี้จะถูกเรียบเรียงขึ้นโดยสภาสังคายนาคอนสแตนติโนเปิลครั้งที่หนึ่งเมื่อปี ค.ศ. 381 แต่ก็เรียกว่า "ไนซีน" เพราะถือว่าได้ข้อสรุปความเชื่อกันมาจากสภาสังคายนาไนเซียครั้งที่หนึ่ง ในปี ค.ศ. 325 นิกายในศาสนาคริสต์ ที่ยึดถือหลักข้อเชื่อนี้ได้แก่โรมันคาทอลิก อีสเทิร์นออร์ทอดอกซ์ ออเรียนทัลออร์ทอดอกซ์ แองกลิคันคอมมิวเนียน และหลาย ๆ นิกายในฝ่ายโปรเตสแตนต์
ช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 4 ได้เกิดข้อถกเถียงทางเทววิทยา ขึ้นในคริสตจักรว่าพระเยซูเป็นพระเจ้าหรือไม่ เอเรียส บาทหลวง ชาวแอฟริกาเหนือ เสนอแนวคิดว่าพระบุตร มีสถานะต่ำกว่าพระบิดา พระบิดาคือพระเป็นเจ้า พระผู้สร้าง เพียงพระองค์เดียว ส่วนพระบุตรเป็นสิ่งที่ถูกสร้างในภายหลัง แต่ก็ได้รับเกียรติให้ประเสริฐกว่ามนุษย์อื่นทั้งหมด แนวคิดนี้ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในคริสตจักรสมัยนั้น แต่ขัดกับหลักตรีเอกภาพ ที่ถือว่าทั้งพระบิดาและพระบุตรล้วนแต่เป็นพระเจ้าหนึ่งเดียวเสมอกัน จึงเกิดความแตกแยกขึ้นภายในคริสตจักร จักรพรรดิคอนสแตนตินที่ 1 ทรงเห็นว่าปัญหานี้จะส่งผลต่อความมั่นคงแห่งชาติ จึงประกาศเรียกประชุมสังคายนาขึ้นที่เมืองไนเซีย ในปี ค.ศ. 325 บรรดามุขนายก จากทั่วคริสตจักรมาร่วมสภา จนที่สุดได้มติว่าพระบิดาและพระบุตรเป็นพระเจ้าหนึ่งเดียว พระบุตรไม่ได้ถูกสร้าง แต่ทรงบังเกิดจากพระบิดาโดย "ร่วมธรรมชาติเดียวกัน" (homoousios) เอเรียสปฏิเสธไม่ยอมรับมตินี้ จึงถูกสภาสังคายนาขับออกจากคริสตจักร
ลัทธิเอเรียส ยังคงแพร่หลายอยู่ในคริสตจักร มุขนายกหลายองค์สงวนท่าทีไม่ยอมรับมติสภาสังคายนาไนเซีย จักรพรรดิเกรเชียนและจักรพรรดิธีโอโดเซียสที่ 1 จึงประกาศเรียกประชุมสภาสังคายนาอีกครั้งที่เมืองคอนสแตนติโนเปิล ในปี ค.ศ. 381 ผลการประชุมมีมติยืนยันว่าพระบิดา พระบุตร ตลอดจนพระวิญญาณบริสุทธิ์ เสมอกันเป็นพระเจ้าองค์เดียว และเรียบเรียงข้อสรุปความเชื่อจากสภาไนเซียจนออกมาเป็น "หลักข้อเชื่อไนซีน" ในเวลาต่อมา
หลักข้อเชื่อไนเซียฉบับแปลภาษาไทยที่ใช้ในปัจจุบันมี 4 ฉบับ คือ 1. ของคณะกรรมการคาทอลิกเพื่อพิธีกรรม 2. ศาสนจักรออร์ทอดอกซ์ 3. สภาคริสตจักรในประเทศไทย และ 4. คริสตจักรแองลิกันในประเทศไทย เนื้อหาแบ่งออกเป็น 16 ส่วน เปรียบเทียบกันได้ดังนี้
ศาสนจักรคาทอลิก [2]
ข้าพเจ้าเชื่อในพระเจ้าหนึ่งเดียว
พระบิดา ผู้ทรงสรรพานุภาพ เนรมิต ฟ้า ดิน ทั้งสิ่งที่เห็นได้และเห็นไม่ได้
ข้าพเจ้าเชื่อในพระเยซู คริสตเจ้า พระบุตรหนึ่งเดียวของพระเจ้า
ทรงบังเกิดจากพระบิดาก่อนกาลเวลา
ทรงเป็นพระเจ้าจากพระเจ้า
เป็นองค์ความสว่างจากองค์ความสว่าง
ทรงเป็นพระเจ้าแท้จากพระเจ้าแท้
มิได้ถูกสร้างแต่ทรงบังเกิดร่วมพระธรรมชาติเดียวกับพระบิดา
อาศัยพระบุตรนี้ ทุกสิ่งได้รับการเนรมิตขึ้นมา
เพราะเห็นแก่เรามนุษย์ เพื่อทรงช่วยเราให้รอด พระองค์จึงเสด็จจากสวรรค์
พระองค์ทรงรับสภาพมนุษย์ จากพระนางมารีย์พรหมจารี ด้วยพระอานุภาพของพระจิตเจ้า
และทรงบังเกิดเป็นมนุษย์
สมัยปอนทิอัส ปิลาต พระองค์ทรงถูกตรึงกางเขน เพื่อเรา
พระองค์สิ้นพระชนม์และถูกฝังไว้
ทรงกลับคืนพระชนมชีพ ในวันที่สาม ตามความในพระคัมภีร์
เสด็จสู่สวรรค์ ประทับเบื้องขวาพระบิดา
พระองค์จะเสด็จมาอีกด้วยพระสิริรุ่งโรจน์เพื่อทรงพิพากษาผู้เป็นและผู้ตาย
รัชสมัยของพระองค์จะไม่สิ้นสุด
ข้าพเจ้าเชื่อในพระจิต พระเจ้าผู้ทรงบันดาลชีวิต
ทรงเนื่องมาจากพระบิดาและพระบุตร
ทรงรับการถวายสักการะและพระสิริรุ่งโรจน์ร่วมกับพระบิดาและพระบุตร
พระองค์ดำรัสทางประกาศก
ข้าพเจ้าเชื่อว่า มีพระศาสนจักร หนึ่งเดียว ศักดิ์สิทธิ์ สากลและสืบเนื่องจากอัครสาวก
ข้าพเจ้าประกาศยืนยันว่า มีศีลล้างบาป หนึ่งเดียวเพื่ออภัยบาป
ข้าพเจ้ารอวันที่ผู้ตายจะกลับคืนชีพ
และคอยชีวิตในโลกหน้า อาแมน
ศาสนจักรออร์ทอดอกซ์ [3]
ข้าพเจ้าเชื่อในพระเจ้าหนึ่งเดียว
พระบิดาผู้ทรงสรรพานุภาพ ทรงเนรมิตฟ้าดิน ทิ้งสิ่งที่เห็นได้และเห็นไม่ได้
ข้าพเจ้าเชื่อในพระเยซูคริสตเจ้า พระบุตรหนึ่งเดียวของพระเจ้า
ทรงบังเกิดจากพระบิดาก่อนกาลเวลา
(ไม่มีข้อความ )
ทรงเป็นองค์ความสว่างจากองค์ความสว่าง
ทรงเป็นพระผู้เป็นเจ้าแท้ จากพระผู้เป็นเจ้าแท้
มิได้ถูกสร้างขึ้น แต่ทรงบังเกิดร่วมกับลักษณ์เดียวกับพระบิดา
ผู้ทรงสถาปนาทุกอย่างขึ้นมา
เพื่อเห็นแก่ข้าพระองค์ที่เป็นมนุษย์ พระองค์เสด็จลงจากสรวงสวรรค์เพื่อช่วยข้าพระองค์ให้รอด
พระองค์ทรงรับสภาพมนุษย์จากพระจิตเจ้าและพระนางมารีย์พรหมจารี
และทรงบังเกิดเป็นมนุษย์
พระองค์ทรงถูกตรึงที่กางเขนเพื่อข้าพระองค์ทั้งหลาย สมัยของปอนทิอัส ปิลาต
ทรงถูกทรมานและถูกฝังไว้
พระองค์ทรงกลับคืนพระชนมชีพในวันที่สามตามความในพระคัมภีร์
พระองค์เสด็จขึ้นสวรรค์ ประทับอยู่เบื้องพระหัตถ์ขวาของพระบิดา
พระองค์จักเสด็จมาอีกครั้งด้วยพระสิริรุ่งโรจน์เพื่อทรงพิพากษาเหล่าคนเป็นและคนตาย
พระอาณาจักรของพระองค์จะไม่มีวันสิ้นสุด
ข้าพระเจ้าเชื่อในพระจิตเจ้าผู้ทรงศักดิ์สิทธิ์ พระเจ้าผู้ทรงบันดาลชีวิต
และผู้ทรงบังเกิดจากพระบิดา
ทรงรับการถวายการสักการะและพระสิริรุ่งโรจน์ร่วมกับพระบิดาและพระบุตร
ตามความของผู้เผยพระวจนะทั้งหลาย
ข้าพเจ้าเชื่อในพระศาสนจักรหนึ่งเดียวศักดิ์สิทธิ์ สากล และสืบเนื่องมาจากอัครสาวก
ข้าพเจ้าประกาศว่ามีเพียงศีลล้างบาปหนึ่งเดียวเพื่ออภัยบาป
ข้าพระเจ้ารอวันที่ผู้ตายจะกลับฟื้นคืนชีพ
และรอคอยชีวิตในโลกหน้า อาเมน
สภาคริสตจักรฯ [4]
ข้าพเจ้าเชื่อวางใจในพระเจ้าองค์เดียว
พระบิดาผู้ทรงฤทธิ์สูงสุด ผู้ทรงสร้างฟ้าสวรรค์และโลก และทุกสิ่งที่ประจักษ์และไม่ประจักษ์แก่ตา
ข้าพเจ้าเชื่อวางใจในพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าพระองค์เดียว ผู้ทรงเป็นพระบุตรองค์เดียวของพระเจ้า
ทรงกำเนิดจากพระบิดาก่อนทรงสร้างกัลปจักรวาลทั้งมวล
ทรงเป็นพระเจ้ากำเนิดมาจากพระเจ้า
แสงสว่างจากแสงสว่าง
พระเจ้าแท้จากพระเจ้าแท้
ทรงกำเนิดไม่ใช่ถูกสร้างขึ้น ทรงเป็นสาระเดียวกันกับพระบิดา
พระองค์ทรงสร้างสรรพสิ่ง พระองค์ทรงเสด็จลงมาแต่สวรรค์
เพื่อมนุษย์ และเพื่อช่วยเราให้รอดพ้น
ทรงกำเนิดเป็นมนุษย์โดยพระวิญญาณบริสุทธิ์ทางมารีย์สาวพรหมจารี
ทรงสภาพมนุษย์
แล้วในสมัยปอนทีอัสปีลาตปกครองนั้นเอง พระองค์ ถูกตรึงที่ไม้กางเขนเพื่อเราทั้งหลาย
พระองค์ทรงทุกข์ทรมานจนสิ้นพระชนม์ ทรงถูกบรรจุไว้ในอุโมงค์
และในวันที่สามทรงคืนพระชนม์ ตามที่พระคัมภีร์ทำนายไว้
พระองค์เสด็จขึ้นสวรรค์ประทับ ณ เบื้องขวาของพระบิดา
พระองค์จะเสด็จมาอีกด้วยพระสิริ เพื่อพิพากษาทั้งคนเป็นและคนตาย
พระราชอาณาจักรของพระองค์ ไม่รู้สิ้นสุด
ข้าพเจ้าเชื่อวางใจในพระวิญญาณบริสุทธิ์ องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ประทานชีวิต
ผู้ทรงเป็นมาจากพระบิดาและพระบุตร
ผู้ทรงรับนมัสการ และการสรรเสริญพร้อมพระบิดา และพระบุตร
พระองค์ได้ตรัสทางพวกผู้เผยพระวจนะ
ข้าพเจ้าเชื่อมั่นในสากลคริสตจักรที่สืบจากอัครธรรมทูตคริสตจักรเดียว
ข้าพเจ้ารับว่ามีพิธีบัพติศมา เพื่อการยกบาปแต่พิธีเดียว
ข้าพเจ้าเชื่อมั่นในการคืนชีพของผู้ที่ตายแล้ว
และในชีวิตโลกหน้า อาเมน
แองกลิกัน [5]
ข้าพเจ้าเชื่อว่าพระเจ้าเป็นหนึ่งเดียว
พระบิดาผู้ทรงสรรพานุภาพ เนรมิตฟ้าดิน ทั้งสิ่งที่เห็นได้และเห็นไม่ได้
ข้าพเจ้าเชื่อว่าพระเยซูคริสต์เจ้า ทรงเป็นพระบุตรองค์เดียวของพระเจ้า
ทรงกำเนิดจากพระบิดาก่อนทรงสร้างจักรวาลทั้งหมด
ทรงเป็นพระเจ้าจากพระเจ้า
เป็นองค์ความสว่างจากความสว่าง
เป็นพระเจ้าแท้จากพระเจ้าแท้
มิได้ถูกสร้าง แต่ทรงบังเกิดร่วมในสภาพเดียวกับพระบิดา
อาศัยพระบุตรนี้ทุกสิ่งได้ถูกเนรมิตขึ้นมา
เพราะเห็นแก่มนุษย์ เพื่อช่วยเราให้รอด พระองค์จึงเสด็จจากสวรรค์
ด้วยพระอานุภาพของพระวิญญาณบริสุทธิ์ พระองค์ทรงรับเอากายจากนางมารีย์ ผู้เป็นพรหมจารี
มาบังเกิดเป็นมนุษย์
สมัยปอนทัส ปีลาต ปกครอง พระองค์ถูกตรึงกางเขนเพื่อเรา
พระองค์ทรงทนทุกข์ทรมานจนสิ้นพระชนม์ ทรงถูกฝังไว้ในอุโมงค์
ทรงคืนพระชนม์ ในวันที่สามตามความในพระคัมภีร์
เสด็จขึ้นสวรรค์ ประทับเบื้องขวาพระบิดา
พระองค์จะเสด็จมาอีกด้วยพระสิริ เพื่อทรงพิพากษาผู้เป็นและผู้ตาย
พระราชอาณาจักรของพระองค์ จะไม่มีสิ้นสุด
ข้าพเจ้าเชื่อว่า พระวิญญาณเป็นพระเจ้าผู้ประทานชีวิต
ทรงเนื่องมาจากพระบิดาและพระบุตร
ทรงรับการนมัสการและการสรรเสริญร่วมกับพระบิดาและพระบุตร
พระองค์ตรัสทางพวกผู้เผยพระวจนะ
ข้าพเจ้าเชื่อว่าคริสตจักรบริสุทธิ์ เป็นหนึ่งเดียว เป็นสากล และสืบจากอัครสาวก
ข้าพเจ้าประกาศยืนยันว่าเชื่อในการรับศีลบัพติศมา เพื่อการยกโทษบาป
ข้าพเจ้ารอวันที่ผู้ตายจะคืนชีพ
และคอยชีวิตในภพหน้า อาเมน
↑ ราชบัณฑิตยสถาน, พจนานุกรมศัพท์ศาสนาสากล อังกฤษ-ไทย ฉบับราชบัณฑิตยสถาน , พิมพ์ครั้งที่ 3, ราชบัณฑิตยสถาน, 2552, หน้า 177
↑ คณะกรรมการคาทอลิกเพื่อพิธีกรรม, พิธีมิสซาบูชาขอบพระคุณ , 2543, หน้า 5-6
↑ หนังสือพิธีกรรมศีลมหาสนิท, หน้า49
↑ "ธรรมนูญแห่งสภาคริสตจักรในประเทศไทย ค.ศ. 1998" (PDF) . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF) เมื่อ 2015-10-22. สืบค้นเมื่อ 2014-01-09 .
↑ หนังสือภาวนาของคริสตจักรแองลิกันเพื่อใช้ในประเทศไทย หน้า 11-12 , คริสตจักรแองลิกันในประเทศไทย