For faster navigation, this Iframe is preloading the Wikiwand page for พระเจ้าอชาตศัตรู.

พระเจ้าอชาตศัตรู

พระเจ้าอชาตศัตรู
กระบวนพยุหยาตราออกจากราชคฤห์ น่าจะมีพระเจ้าอชาตศัตรูในนี้ จากสถูปสาญจี[1]
จักรพรรดิหารยังกะองค์ที่ 2
ครองราชย์ป. 492 –  460 ปีก่อนคริสต์ศักราช[2] หรือช่วงต้นศตวรรษที่ 4 ก่อนคริสต์ศักราช[3]
ก่อนหน้าพระเจ้าพิมพิสาร
ถัดไปพระเจ้าอุทัยภัทร
ผู้ว่าการจามปา
ครองราชย์? - ประมาณ 492 ปีก่อนคริสต์ศักราช
สวรรคต460 ปีก่อนคริสต์ศักราช[4] หรือประมาณ 380 ปีก่อนคริสต์ศํกราช[5]
คู่อภิเษก
  • เจ้าหญิงวชิระ
  • พระนางปัทมาวดี
  • พระนางธาริณี
  • พระนางสุภัทรา
พระราชบุตรพระเจ้าอุทัยภัทร
ราชวงศ์หารยังกะ
พระราชบิดาพระเจ้าพิมพิสาร
พระราชมารดาราชินีโกศัลยเทวี (พระนางเวเทหิ)

พระเจ้าอชาตศัตรู (สันสกฤต: अजातशत्रु; Ajātaśatru; บาลี: Ajātasattu;[6] 492 ถึง 460 ปีก่อนคริสต์ศักราช หรือต้นศตวรรษที่ 5 ก่อนคริสต์ศักราช[7]) เป็นพระราชาองค์ที่ 3 แห่งแคว้นมคธ ปกครองทางตอนเหนือของอินเดีย เป็นพระราชโอรสในพระเจ้าพิมพิสารและพระนางเวเทหิ พระธิดาของพระเจ้ามหาโกศลแห่งแคว้นโกศลและพระภคินีของพระเจ้าปเสนทิโกศล พระเจ้าอชาตศัตรูเป็นอุบาสก และผู้อุปถัมภ์สังคายนาครั้งที่หนึ่งในศาสนาพุทธ[8]

วันที่

เมื่อเทียบวันที่ด้วยวันในมหาวงศ์และบทสรุปที่ว่าพระพุทธเจ้าเสด็จปรินิพพานใน 483 ปีก่อนคริสต์ศักราช A. L. Basham จึงกำหนดวันขึ้นครองราชย์ของอชาตศัตรูที่ 491 ปีก่อนคริสต์ศักราช[9] เขาประมาณการว่าการทัพครั้งแรกเกิดขึ้นใน 485 ปีก่อนคริสต์ศักราช และการทัพครั้งที่สองต่อวัชชีเกิดขึ้นใน 481–480 ปีก่อนคริสต์ศักราช[9] Samannaphala Sutta บันทึกว่า ช่วงที่พระเจ้าอชาตศัตรูเสด็จไปเยี่ยมพระอาจารย์ทั้งหกเพื่อฟังคำสอนและไปเยี่ยมพระพุทธเจ้า Basham คาดการว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นใน 491 ปีก่อนคริสต์ศักราช[10]

พระราชประวัติ

ภาพวาดพระเจ้าอชาตศัตรูเสด็จไปเยี่ยมพระพุทธเจ้าเพื่อขจัดความผิด

เมื่อครั้งที่ยังอยู่ในพระครรภ์ พระนางเวเทหิของพระเจ้าพิมพิสาร พระนางประชวรพระครรภ์ อยากเสวยพระโลหิตของพระสวามี ด้วยความรักพระมเหสีและบุตรในครรภ์ พระองค์จึงรองพระโลหิตของพระองค์ไปให้พระมเหสีเสวย ทางด้านโหราจารย์ทำนายว่าราชกุมารในครรภ์จะเป็นทำปิตุฆาต (ฆ่าพ่อ) พระนางเวเทหิจึงพยายามทำแท้งหลายครั้งแต่ไม่สำเร็จ พระเจ้าพิมพิสารเมื่อทรงทราบก็ทรงห้าม พอประสูติมีพระนามว่า “อชาตศัตรู” (แปลว่า ศัตรูผู้ที่ยังมาไม่ถึง,ศัตรูผู้ยังไม่มาเกิด)

ในวัยเยาว์ ทรงเลี้ยงดูพระโอรสเป็นอย่างดี และทรงสถาปนาเป็นรัชทายาท เมื่อเข้าวัยรุ่นทรงมีสติปัญญาเฉียบแหลม แต่ก็ได้รู้จักกับพระเทวทัตที่กำลังจะแสวงหาผู้ที่จะมาช่วยตนปลงพระชนม์ พระโคตมพุทธเจ้า ซึ่งต้องการได้รับความสนับสนุนจากผู้มีอำนาจทางบ้านเมือง และด้วยที่พระเจ้าอชาตศัตรูขาดประสบการณ์ สามารถชักจูงได้ง่าย ทำให้พระเจ้าอชาตศัตรูเกิดความศรัทธาในพระเทวทัต ถูกเสี้ยมสอนว่า ชีวิตคนเรานั้นไม่เที่ยงไม่แน่ว่าจะได้ครองราชย์สมบัติ จึงควรปลงพระชนม์พระเจ้าพิมพิสารเสีย แล้วขึ้นครองราชย์แทน ส่วนพระเทวทัตจะปลงพระชนม์พระศาสดาและทำหน้าที่ปกครองสงฆ์

พระเจ้าอชาตศัตรูก็หลงเชื่อ พระองค์ก็ได้นำพระกริชมาแนบกับพระชงฆ์ (แข้งขา) และห่มผ้าบดบังไว้ แล้วไปเข้าเฝ้าพระราชบิดาที่ตำหนักเพื่อลอบปลงพระชนม์ แต่องครักษ์ก็ได้เห็นสังเกตความผิดปกติที่ขาของราชกุมารจึงขอตรวจค้นพระองค์ แต่อชาตศัตรูราชกุมารก็เกิดความร้อนพระทัย จึงหันหลังกลับออกจากตำหนัก องค์รักษ์จึงสั่งให้ทหารจับกุมและทำการตรวจค้นพระองค์จนพระกริชที่ซ่อนไว้ที่พระชงฆ์ จึงแน่ใจว่าอชาตศัตรูราชกุมารกำลังจะลอบปลงพระชนม์พระเจ้าพิมพิสาร จึงได้นำตัวพระราชกุมารไปให้เหล่าเสนาอำมาตย์ตัดสินลงโทษ เหล่าเสนาอำมาตย์ก็ได้ไต่สวนกับพระราชกุมารจนพระองค์ยอมรับและตรัสว่าถูกพระเทวทัตยุยง ทำให้เหล่าเสนาอำมาตย์เกิดแตกแยกเป็น 3 พวก 3 ความเห็น พวกเสนาอำมาตย์แรกมีความเห็นว่าให้ควรประหารพระเทวทัต พระราชกุมาร และพร้อมด้วยภิกษุสาวกของพระเทวทัตเสีย พวกเสนาอำมาตย์ที่สองมีความเห็นว่าให้ควรประหารพระเทวทัตและพระราชกุมารเท่านั้น ส่วนพวกเสนาอำมาตย์ที่สามซึ่งนำโดยวัสสการพราหมณ์อำมาตย์มีความเห็นว่าไม่ประควรประหารพระเทวทัต พระราชกุมาร และพร้อมด้วยภิกษุสาวกของพระเทวทัตใด ๆ และออกความเห็นว่าให้นำพระราชกุมารไปให้พระเจ้าพิมพิสารทรงตัดสิน

เมื่อพระเจ้าพิมพิสารทรงทราบและสดับความเห็นของเหล่าเสนาอำมาตย์ทั้งสามพวก พระเจ้าพิมพิสารก็ได้ตรัสบอกว่าพระพุทธเจ้าได้ให้สงฆ์ทำปกาสนียกรรมว่า การกระทำของพระเทวทัตไม่ว่าจะเป็นทางกาย วาจา ใจ มิได้เกี่ยวข้องพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ เป็นการกระทำของพระเทวทัตแต่เพียงผู้เดียวมิใช่รึ พระเจ้าพิมพิสารทรงได้ปลดตำแหน่งแก่พวกเสนาอำมาตย์พวกแรก ลดตำแหน่งแก่พวกเสนาอำมาตย์ที่สอง และให้เลื่อนตำแหน่งแก่วัสกาพราหมณ์อำมาตย์และพวกเสนาอำมาตย์ที่สาม หลังจากนั้นพระเจ้าพิมพิสารทรงตรัสถามพระราชโอรสว่าทำอย่างนี้ทำไม พระราชโอรสได้ตรัสตอบว่าต้องการราชสมบัติ พระเจ้าพิมพิสารทรงตัดสินพระทัยสละราชสมบัติมอบให้แก่อชาตศัตรูราชกุมาร เมื่ออชาตศัตรูราชกุมารได้ขึ้นครองราชย์เป็นพระเจ้าอชาตศัตรูแล้ว แต่พระเทวทัตก็ยังยุยงพระเจ้าอชาตศัตรูอีกว่าแม้พระเจ้าพิมพิสารจะทรงสละราชสมบัติมอบให้แก่พระองค์ พระเจ้าพิมพิสารอาจจะมาแย่งชิงตำแหน่งคืนก็เป็นไปได้ ทำให้พระองค์หลงเชื่อจึงมีรับสั่งให้จับพระเจ้าพิมพิสารไปจองจำขังในคุกและทรมานโดยวิธีการต่าง ๆ จนพระบิดาสิ้นพระชนม์ แต่หลังพระบิดาสิ้นพระชนม์ก็สำนึกได้ว่าได้ทำกรรมอันหนักยิ่ง จึงทรงบำเพ็ญกุศลต่าง ๆ เพื่อลบล้างความผิดให้เจือจางลงไปบ้าง และทรงปฏิญาณตนเป็นอุบาสกบริษัท ตั้งมั่นในคำสอนของพระพุทธองค์

ทรงปกครองการเมืองโดยตั้งอยู่ในทศพิธราชธรรมและราชสังควัตถุ ทำให้ประชาราษฎร์อยู่อย่างเป็นสุข และยังมีแสนยานุภาพเป็นที่เกรงขามของแคว้นอื่น แต่ก็ไม่สามารถอุปสมบท หรือบรรลุธรรมขั้นสูง เพราะการกระทำหนักคือปิตุฆาต พระองค์ทำนุบำรุงศาสนาพุทธด้วยดีโดยตลอด

ผลกรรมจากการปิตุฆาต

สถูปพระเจ้าอชาตศัตรู เมืองราชคฤห์

คัมภีร์สุมังคลวิลาสินี อาสวักขยญาณกถาวัณณนา ระบุว่าพระเจ้าอชาตศัตรูถูกพระเจ้าอุทัยภัทร พระราชโอรสกระทำปิตุฆาต จากนั้นพระองค์ได้ไปเกิดในโลหกุมภีนรก ใช้เวลาสามหมื่นปีจึงจะจมลงถึงพื้นล่างของโลหกุมภี และใช้เวลาอีกสามหมื่นปีจึงจะโผล่ขึ้นมาถึงปากโลหกุมภี รวมระยะเวลาชดใช้กรรมถึงหกหมื่นปี แต่ในอนาคตพระองค์จะได้ตรัสรู้เป็นพระปัจเจกพุทธเจ้าพระนามว่าชีวิตวิเสส[11]

อ้างอิง

  1. John Marshall, A Guide to Sanchi, 1918 p.58ff เก็บถาวร 20 สิงหาคม 2017 ที่ Wikiwix (Public Domain text)
  2. India's Ancient Past, by R.S. Sharma
  3. India: A History. Revised and Updated, by John Keay
  4. India's Ancient Past, by R.S. Sharma
  5. India: A History. Revised and Updated, by John Keay
  6. India's Ancient Past, by R.S. Sharma
  7. India: A History. Revised and Updated, by John Keay
  8. "พุทธบริษัท 4". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2009-06-01. สืบค้นเมื่อ 2009-08-06.
  9. 9.0 9.1 Kailash Chand Jain 1991, p. 75.
  10. Kailash Chand Jain 1991, p. 79.
  11. อาสวกฺขยญาณกถาวณฺณนา, อรรถกถา ทีฆนิกาย สีลขันธวรรค สามัญญผลสูตร

ข้อมูล

อ่านเพิ่ม

  • Ācharya Nagrajji D.Litt. "Agama and Tripitaka- A comparative study of Lord Mahavira and Lord Buddha", vol. 1, History and Tradition, chapter 14 "Follower Kings" pg.355-377. (English version by Muni Mahendrakumarji) published by Concept Publishing Company, New Delhi 110059.
  • G.P.Singh,2004. "Early Indian Historical Tradition and Archaeology". D.K.Printworld(P)Ltd-New Delhi 110015; pp. 164, 165
  • Jain Aagam 1st Upanga Uvavai Sutta Chapter Kunika

แหล่งข้อมูลอื่น

ก่อนหน้า พระเจ้าอชาตศัตรู ถัดไป
พระเจ้าพิมพิสาร กษัตริย์แห่งแคว้นมคธ
(ราชวงศ์หารยังกะ)

(พ.ศ. 52 – พ.ศ. 84)
พระเจ้าอุทัยภัทร
{{bottomLinkPreText}} {{bottomLinkText}}
พระเจ้าอชาตศัตรู
Listen to this article

This browser is not supported by Wikiwand :(
Wikiwand requires a browser with modern capabilities in order to provide you with the best reading experience.
Please download and use one of the following browsers:

This article was just edited, click to reload
This article has been deleted on Wikipedia (Why?)

Back to homepage

Please click Add in the dialog above
Please click Allow in the top-left corner,
then click Install Now in the dialog
Please click Open in the download dialog,
then click Install
Please click the "Downloads" icon in the Safari toolbar, open the first download in the list,
then click Install
{{::$root.activation.text}}

Install Wikiwand

Install on Chrome Install on Firefox
Don't forget to rate us

Tell your friends about Wikiwand!

Gmail Facebook Twitter Link

Enjoying Wikiwand?

Tell your friends and spread the love:
Share on Gmail Share on Facebook Share on Twitter Share on Buffer

Our magic isn't perfect

You can help our automatic cover photo selection by reporting an unsuitable photo.

This photo is visually disturbing This photo is not a good choice

Thank you for helping!


Your input will affect cover photo selection, along with input from other users.

X

Get ready for Wikiwand 2.0 🎉! the new version arrives on September 1st! Don't want to wait?