For faster navigation, this Iframe is preloading the Wikiwand page for ลิงจมูกยาว.

ลิงจมูกยาว

ลิงจมูกยาว
สถานะการอนุรักษ์
CITES Appendix I (CITES)[2]
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ แก้ไขการจำแนกนี้
โดเมน: ยูแคริโอต
Eukaryota
อาณาจักร: สัตว์
Animalia
ไฟลัม: สัตว์มีแกนสันหลัง
Chordata
ชั้น: สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม
Mammalia
อันดับ: อันดับวานร
Primates
อันดับย่อย: ฉบับร่าง:Haplorhini
Haplorhini
อันดับฐาน: Simiiformes
Simiiformes
วงศ์: Cercopithecidae
Cercopithecidae
วงศ์ย่อย: ค่าง
Colobinae
เผ่า: Presbytini
Presbytini
É. Geoffroy, 1812
สกุล: Nasalis
Nasalis
Wurmb, 1787
สปีชีส์: Nasalis larvatus[1]
ชื่อทวินาม
Nasalis larvatus[1]
Wurmb, 1787

ลิงจมูกยาว หรือ ลิงจมูกงวง (ชื่อวิทยาศาสตร์: Nasalis larvatus) เป็นลิงโลกเก่าที่มีจมูกขนาดใหญ่กว่าปรกติ ผิวสีน้ำตาลแดง และหางยาว เป็นสิ่งมีชีวิตเฉพาะถิ่นในเกาะบอร์เนียวของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และส่วนใหญ่พบในป่าชายเลนและพื้นที่ชายฝั่งของเกาะ[3]

ลิงชนิดนี้อาศัยอยู่ร่วมกับอุรังอุตังบอร์เนียวกับลิงอย่างค่างเทา[4] จัดเป็นเพียงชนิดเดียวในสกุล Nasalis[5][6]

อนุกรมวิธานและชื่อ

[แก้]

ลิงจมูกยาวอยู่ในวงศ์ย่อย Colobinae ของวงศ์ลิงโลกเก่า โดยมีชนิดย่อย 2 ชนิด คือ:[2]

  • N. l. larvatus (Wurmb, 1787), พบได้ทั่วไป
  • N. l. orientalis (Chasen, 1940), จำกัดเฉพาะกาลีมันตันตะวันออกเฉียงเหนือ

อย่างไรก็ตาม ความแตกต่างระกว่างชนิดย่อยมีน้อย และใช่ว่าทั้งหมดจะยอมรับ N. l. orientalis.[2]

ในประเทศมาเลเซียมีชื่อเรียกว่า monyet belanda[7][8]

ถิ่นที่อยู่อาศัย

[แก้]

เป็นลิงที่พบเฉพาะเกาะบอร์เนียว อาศัยอยู่ในป่าชายเลนหรือป่าติดริมแม่น้ำ เช่น อุทยานแห่งชาติทันจุงปูติง[9], อุทยานแห่งชาติบาโก และคินาบาตางัน ในรัฐซาบะฮ์ ประเทศมาเลเซีย ตลอดจนประเทศใกล้เคียง เช่น บรูไน และรัฐกาลีมันตัน ในอินโดนีเซีย ปัจจุบัน เหลือประมาณ 8,000 ตัว[10]

ลักษณะ

[แก้]
เพศผู้
เพศเมีย

ลิงจมูกยาว เป็นลิงจำพวกค่าง มีรูปร่างอ้วนลงพุง ขนตามลำตัวสีน้ำตาลแดง มีลักษณะเด่นคือ มีจมูกที่ยาวเหมือนงวงช้างห้อยเลยมาจนปิดปากตัวเอง ซึ่งมีเฉพาะในตัวผู้ในวัยที่โตเต็มที่แล้ว ซึ่งในปัจจุบันยังไม่ทราบว่ามีไว้เพื่ออะไร นอกเหนือจากการหายใจ ในขณะที่ตัวเมียและลิงตัวผู้วัยอ่อน จะไม่มีจมูกลักษณะดังกล่าวนี้ โดยจมูกของตัวผู้จะโตตามขนาดของร่างกาย

เคยมีการสันนิษฐานว่าจมูกที่ยาวของมีไว้เพื่อใช้ในการว่ายน้ำ แต่เหตุผลข้อนี้ก็ต้องตกไป เพราะตัวเมียก็ว่ายน้ำเหมือนกัน แต่ตัวเมียกลับมีจมูกที่เล็กกว่าครึ่งหนึ่งของตัวผู้ นักชีววิทยาบางกลุ่มก็สันนิษฐานว่า จมูกมีหน้าที่ในการระบายอากาศจากภายในร่างกาย เนื่องจากตัวผู้มีขนาดตัวและมีกระเพาะที่ใหญ่มาก ภายในร่างกายจึงมีความร้อนมาก บ้างก็อธิบายโดยใช้หลักการของชาร์ล ดาร์วิน ว่า ตัวเมียจะชอบตัวผู้ที่มีจมูกใหญ่ เมื่อนานเข้าตัวผู้ที่มีจมูกเล็กจึงลดจำนวนลงเรื่อย ๆ จนกระทั่งเหลือแต่ตัวที่จมูกใหญ่ คล้ายกับว่ายิ่งตัวผู้มีจมูกยาวใหญ่เท่าไหร่ ก็ยิ่งเป็นที่สนใจของตัวเมียมากขึ้นเท่านั้น [11]

พฤติกรรม

[แก้]

ลิงจมูกยาว ก็เหมือนกับค่างชนิดอื่น ๆ ที่กระเพาะจะสามารถย่อยได้ดีแต่เฉพาะพืช ดังนั้น จึงกินอาหารจำพวก ใบไม้และผลไม้รสจืด รวมถึงเมล็ดพืชต่าง ๆ เป็นหลัก จะหากินในเวลาเช้าตรู่ โดยอาจหากินได้ไกลถึง 2 กิโลเมตร มากกว่าลิงชนิดอื่น ๆ มาก ก่อนจะเข้าสู่ป่าลึก จากนั้นในเวลาบ่ายจะออกมาอีกครั้งเพื่อนอนหลับ อาศัยอยู่รวมกันเป็นฝูง โดยมีตัวเมียที่อายุมากที่สุดเป็นผู้นำในการออกหากิน และตัวผู้ที่มีอายุมากที่สุดเป็นผู้ปิดท้ายขบวน อาศัยอยู่เป็นฝูงประมาณ 9 ตัว โดยมีตัวผู้เป็นจ่าฝูง จะปกครองแบบฮาเร็ม ที่อาจครอบครองตัวเมียมากถึง 5-6 ตัว ลูกลิงจมูกยาวตัวผู้หากโตเต็มที่เมื่ออายุได้ 2 ปีแล้วจะถูกขับออกจากฝูง และลิงจมูกยาวตัวใดเมื่อเข้าสู่วัยชรา ก็จะถูกลิงที่หนุ่มกว่าเข้าครอบครองฮาเร็มและตัวเมียแทน ตัวผู้ที่ชราแล้ว มักจะถูกทอดทิ้งให้อยู่ตามลำพังไปจนกระทั่งตาย ลิงจมูกยาวข่มขู่กันด้วยเสียงคำรามที่ดังและเป็นเอกลักษณะเฉพาะ หรือเกาะหรือขย่มกิ่งไม้ แต่จะไม่ถูกตัวกัน จะถูกตัวกันก็เฉพาะคู่ที่เป็นแม่ลูกกันเท่านั้น[11]

ลิงจมูกยาว มีพฤติกรรมเคลื่อนไหวไปมาตามต้นไม้ด้วยวิธีการกระโดดที่ไม่เหมือนกับลิงชนิดอื่น คือ จะกระโดดไปมาตามต้นไม้ต่าง ๆ ไปเรื่อย ๆ อย่างว่องไวและไม่มีหยุด[9]

การรับรู้ของมนุษย์และลักษณะพิเศษ

[แก้]

ลิงจมูกยาว มีชื่อเรียกในภาษาถิ่นของชนพื้นเมืองว่า "ออรัง เบลันดา" (Orang Belanda) หมายถึง "ชาวดัตช์" (Orang-คน, มนุษย์; Belanda-ชาวดัตช์) อันเนื่องจากจมูกที่ใหญ่โตเหมือนกับดั้งจมูกของชาวดัตช์ ที่เป็นชาวตะวันตกที่เข้ามาปกครองดินแดนแถบนี้ในยุคอาณานิคม ส่วน Proboscis หมายถึง "ท่อ" หรือ "งวง" [11]

ในระยะแรกที่ชาวตะวันตกได้รู้จักลิงชนิดนี้ ไม่สามารถเลี้ยงไว้ในที่เลี้ยงได้จนรอดไปตลอด มักจะตายอยู่บ่อย ๆ ซึ่งแตกต่างไปจากลิงส่วนใหญ่ที่มักจะปรับตัวและสามารถมีชีวิตอยู่ได้ สาเหตุใหญ่ที่ลิงจมูกยาวตาย ก็คือ เรื่องของอาหาร เนื่องจากมีกระเพาะอาหารแบบพิเศษ ที่มีระบบการย่อยซับซ้อน แตกต่างไปจากกระเพาะของลิงแสมหรืออุรังอุตัง เพราะมีลักษณะกระเพาะคล้ายกับกระเพาะของวัว ซึ่งภายในจะมีบัคเตรีหลายชนิดปะปนอยู่กับของเหลว โดยบัคเตรีจะทำหน้าที่ช่วยย่อยใบไม้ที่ลิงจมูกยาวกินเข้าไป และยังช่วยแยกสารพิษที่ติดมากับใบไม้อีกด้วย ทำให้ลิงจมูกยาวสามารถกินใบไม้บางชนิดที่เป็นพิษได้ ข้อสำคัญที่ทำให้ลิงจมูกยาวต้องตายในที่เลี้ยง ก็คือเนื่องจากไม่สามารถย่อยใบไม้หรือผลไม้ที่มีรสหวานเหมือนอย่างลิงชนิดอื่น เพราะจะทำให้ระบบการย่อยผิดปกติ ก่อให้เกิดแก๊สในช่องท้องเป็นจำนวนมาก จนทำให้ท้องอืดตาย[11]

นอกจากนี้แล้วการให้ยาปฏิชีวนะมากหรือน้อยเกินไปก็ส่งผลต่อระบบการย่อยของลิงเช่นเดียวกัน เพราะยาจะเข้าไปทำลายบัคเตรีในกระเพาะทำให้ไม่สามารถย่อยอาหารได้ แต่ปัจจุบันมีสวนสัตว์บางแห่งสามารถเลี้ยงได้แล้ว โดยสร้างพื้นที่เลียนแบบถิ่นอาศัยดั้งเดิมตามธรรมชาติ และมีการควบคุมเรื่องอาหาร[11]

อ้างอิง

[แก้]
  1. แม่แบบ:MSW3 Primates
  2. 2.0 2.1 2.2 2.3 Boonratana, R.; Cheyne, S.M.; Traeholt, C.; Nijman, V. & Supriatna, J. (2021). "Nasalis larvatus". IUCN Red List of Threatened Species. 2021: e.T14352A195372486. doi:10.2305/IUCN.UK.2021-1.RLTS.T14352A195372486.en. สืบค้นเมื่อ 17 January 2022.
  3. "Proboscis monkey". December 2019. สืบค้นเมื่อ 11 December 2019.
  4. "Economics, Ecology and the Environment: "Conservation of the Proboscis Monkey and the Orangutan in Borneo: Comparative Issues and Economic Considerations"" (PDF). March 2007. ((cite journal)): Cite journal ต้องการ |journal= (help)
  5. Bradon-Jones D., Eudey A. A., Geissmann T., Groves C. P., Melnick D. J., Morales J. C., Shekelle M., Stewart C. B. (2004). "Asian primate classification". International Journal of Primatology. 25: 97–164. doi:10.1023/B:IJOP.0000014647.18720.32. S2CID 29045930.((cite journal)): CS1 maint: uses authors parameter (ลิงก์)
  6. Lhota, S.; Yap, J.L.; Benedict, M.L.; และคณะ (26 April 2022). "Is Malaysia's "mystery monkey" a hybrid between Nasalis larvatus and Trachypithecus cristatus? An assessment of photographs". International Journal of Primatology. 43 (3): 513–532. doi:10.1007/s10764-022-00293-z. PMC 9039274. PMID 35498121.
  7. Rosmah Dain (14 September 2011). "Sabah 'benteng' terakhir Proboscis". Utusan Malaysia. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-01-28. สืบค้นเมื่อ 2022-12-27.
  8. "Bertemu monyet belanda dan Orang Utan di Kinabatangan". Sinar Harian. 29 January 2013.
  9. 9.0 9.1 "สุดหล้าฟ้าเขียว: Indonesia". ช่อง 3. 4 October 2014. สืบค้นเมื่อ 4 October 2014.[ลิงก์เสีย]
  10. National Geographic ฉบับภาษาไทย กุมภาพันธ์ 2550 หน้า 114
  11. 11.0 11.1 11.2 11.3 11.4 ลิงจมูกยาวแห่งลุ่มน้ำคินาบาตางัน โดย เกรียงไกร สุวรรณภักดิ์, สารคดี: ฉบับที่ 220: มิถุนายน 2546

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]
{{bottomLinkPreText}} {{bottomLinkText}}
ลิงจมูกยาว
Listen to this article

This browser is not supported by Wikiwand :(
Wikiwand requires a browser with modern capabilities in order to provide you with the best reading experience.
Please download and use one of the following browsers:

This article was just edited, click to reload
This article has been deleted on Wikipedia (Why?)

Back to homepage

Please click Add in the dialog above
Please click Allow in the top-left corner,
then click Install Now in the dialog
Please click Open in the download dialog,
then click Install
Please click the "Downloads" icon in the Safari toolbar, open the first download in the list,
then click Install
{{::$root.activation.text}}

Install Wikiwand

Install on Chrome Install on Firefox
Don't forget to rate us

Tell your friends about Wikiwand!

Gmail Facebook Twitter Link

Enjoying Wikiwand?

Tell your friends and spread the love:
Share on Gmail Share on Facebook Share on Twitter Share on Buffer

Our magic isn't perfect

You can help our automatic cover photo selection by reporting an unsuitable photo.

This photo is visually disturbing This photo is not a good choice

Thank you for helping!


Your input will affect cover photo selection, along with input from other users.

X

Get ready for Wikiwand 2.0 🎉! the new version arrives on September 1st! Don't want to wait?