ยุทธการที่เซอด็อง (ค.ศ. 1940)
ยุทธการที่เซอด็อง | |||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|
ส่วนหนึ่งของ ยุทธการที่ฝรั่งเศส, แนวรบด้านตะวันตกของสงครามโลกครั้งที่สอง | |||||||
ทหารเยอรมันซึ่งมาพร้อมกับเชลยศึกฝรั่งเศสในการก้าวข้ามแม่น้ำเมิซ เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม ค.ศ. 1940 ใกล้กับเซอด็อง | |||||||
| |||||||
คู่สงคราม | |||||||
ฝรั่งเศส สหราชอาณาจักร | เยอรมนี | ||||||
ผู้บังคับบัญชาและผู้นำ | |||||||
มอริส กาเมแล็ง Charles Huntziger Henri Giraud Pierre Lafontaine Marcel Têtu Colonel Poncelet † P H L Playfair |
แกร์ท ฟ็อน รุนท์ชเต็ท เอวัลท์ ฟ็อน ไคลสท์ ไฮนซ์ กูเดเรียน ว. ฟ็อน ริชท์โฮเฟิน Bruno Loerzer Heinrich Krampf Karl Weisenberger Friedrich Kirchner Rudolf Veiel Ferdinand Schaal | ||||||
กำลัง | |||||||
20,000 men |
60,000 men[6] 41,000 vehicles[7] 771 tanks[8] 1,470 aircraft[3] 141 artillery pieces[3] 96 rubber boats | ||||||
ความสูญเสีย | |||||||
manpower losses unknown artillery losses unknown tank losses unknown 167 aircraft[9] |
120 killed 400 wounded (12–14 May)[10] 647 killed or wounded (15–17 May)[11] at least 81 rubber boats[12] |
ยุทธการที่เซอด็อง (อังกฤษ: Battle of Sedan) หรือ ยุทธการที่เซอด็องครั้งที่สอง (12-15 พฤษภาคม ค.ศ. 1940) เป็นการสู้รบของสงครามโลกครั้งที่สองในช่วงยุทธการที่ฝรั่งเศส การรบเป็นส่วนหนึ่งของแผนปฏิบัติการของกองทัพเวร์มัคท์ในรหัสนามว่า ฟัลล์ เกลบ์(กรณีเหลือง)จากการรุกรานผ่านบริเวณเทือกเขาป่าหนาทึบอาร์แดนเพื่อทำการโอบล้อมกองทัพฝ่ายสัมพันธมิตรในเบลเยียมและทางตะวันตกเฉียงเหนือของฝรั่งเศส กองทัพเยอรมันกลุ่มเอได้ข้ามแม่น้ำเมิซด้วยความมุ่งหมายที่จะเข้ายึดเซอด็อง และผลักดันไปยังชายหาดช่องแคบอังกฤษ เพื่อทำการดักล้อมกองทัพฝ่ายสัมพันธมิตรที่กำลังเคลื่อนทัพไปยังฝั่งตะวันออกในการเข้าสู่เบลเยียมซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนการทางยุทธศาสตร์คือแผนดิล
เมืองเซอด็องตั้งอยู่บนฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเมิซ การเข้ายึดครองนั้นจะทำให้เยอรมันใช้เป็นฐานทัพที่จะเข้ายึดสะพานเมิซและข้ามแม่น้ำ ถ้าหากทำสำเร็จ กองพลเยอรมันก็จะสามารถรุกก้าวข้ามเขตชนบทฝรั่งเศสที่เปิดและไร้การป้องกันนอกเหนือจากเซอด็องและช่องแคบอังกฤษ ในวันที่ 12 พฤษภาคม เซอด็องได้ถูกยึดครองโดยปราศจากการต่อต้าน ในวันรุ่งขึ้น เยอรมันได้เอาชนะฝ่ายป้องกันของฝรั่งเศสบริเวณรอบๆของเซอด็อง ฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเมิซ นี่คือความสำเร็จของลุฟท์วัฟเฟอ ด้วยผลมาจากการทิ้งระเบิดของเยอรมันและขวัญกำลังใจตกต่ำลง ทำให้ฝ่ายป้องกันของฝรั่งเศสไม่สามารถป้องกันได้อีกต่อไป เยอรมันได้เข้ายึดสะพานข้ามแม่น้ำเมิซที่เซอด็อง ส่งผลให้กองทหารรวมทั้งยานเกราะเยอรมันสามารถก้าวข้ามแม่น้ำได้สำเร็จ เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม กองทัพอากาศฝ่ายสัมพันธมิตร กองทัพอากาศหลวงอังกฤษ และกองทัพอากาศฝรั่งเศส พยายามทำลายสะพานและป้องกันไม่ให้มีการเสริมกำลังของเยอรมันไปยังฝั่งตะวันตก ลุฟท์วัฟเฟอได้ทำการป้องกันไม่ให้พวกเขาทำเช่นนั้น ในการรบทางอากาศขนาดใหญ่ ฝ่ายสัมพันธมิตรได้รับความสูญเสียมากมายซึ่งส่งผลทำให้การทิ้งระเบิดทางยุทธศาสตร์ของฝ่ายสัมพันธมิตรได้หมดลงในช่วงการทัพ
การก้าวข้ามแม่น้ำเมิซได้ช่วยทำให้เยอรมันสามารถทำลายยุทธศาสตร์เชิงลึก หรือแนวหลังไร้การป้องกัน แนวรบของฝ่ายสัมพันธมิตรและการรุกสู่ช่องแคบอังกฤษโดยไร้การต่อต้าน ฝรั่งเศสได้พยายามที่จะเปิดการโจมตีตอบโต้กลับต่อกรกับเยอรมันที่หัวสะพานที่ยึดครอง ตั้งแต่วันที่ 15 - 17 พฤษภาคม แต่การรุกรานนั้นทำให้เกิดความล่าช้าและสับสน ห้าวันหลังจากการรวบรวมพลที่หัวสะพานที่เซอด็อง เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม กองทัพเยอรมันสามารถเคลื่อนทัพมาถึงช่องแคบอังกฤษ ด้วยชัยชนะที่เซอด็องนั้นเป็นการบรรลุเป้าหมายของปฏิบัติการฟัลล์ เกลบ์(กรณีเหลือง)และโอบล้อมกองทัพฝ่ายสัมพันธมิตรที่แข็งแกร่งที่สุด รวมทั้งกองทัพต่างแดนบริติช (British Expeditionary Forces หรือ B.E.F.) ผลลัพธ์การรบได้ทำลายส่วนที่เหลือของกองทัพฝรั่งเศสที่เป็นกองทัพที่มีประสิทธิภาพในการรบ,และได้ทำการขับไล่กองทัพอังกฤษออกจากทวีปยุโรปแผ่นดินใหญ่ ได้นำไปสู่ความพ่ายแพ้ของฝรั่งเศสในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 1940 การรบที่เซอด็องนั้นได้แสดงให้เห็นการล่มสลายของฝรั่งเศส
อ้างอิง
[แก้]- ↑ Frieser 2005, p. 145.
- ↑ Mitcham 2000, p. 38.
- ↑ 3.0 3.1 3.2 Frieser 2005, p. 158.
- ↑ 4.0 4.1 Frieser 2005, p. 179.
- ↑ 5.0 5.1 อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อHealy 2007, p. 56
- ↑ Frieser 2005, p. 157.
- ↑ Krause and Cody 2006, p. 171.
- ↑ Healy 2007, p. 44.
- ↑ อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อFrieser 2005, p. 181
- ↑ อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อFrieser 2005, p. 196
- ↑ Frieser 2005, p. 210.
- ↑ อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อFrieser 2005, p. 168
ปฐมบท / ค.ศ. 1939 | |
---|---|
ค.ศ. 1940–1941 | การบุกครองลักเซมเบิร์ก · ยุทธการที่เนเธอร์แลนด์ (ยุทธการที่กรุงเฮก · ยุทธการที่รอตเทอร์ดาม · ยุทธการที่เซลันด์ · รอตเทอร์ดามบลิทซ์) · ยุทธการที่เบลเยียม (ยุทธการที่ป้อมเอเบิน-เอมาเอล · ยุทธการที่อานูว์ · ยุทธการที่ฌ็องบลู · ยุทธการที่ลิส) · ยุทธการที่ฝรั่งเศส (ยุทธการที่เซอด็อง · ยุทธการที่มงกอร์แน · ยุทธการที่อารัส · ยุทธการที่บูลอญ · การล้อมกาแล · ยุทธการที่เดิงแกร์ก · การถอนทัพที่เดิงแกร์ก) · ยุทธการที่บริเตน (อาดเลอร์ทาค · วันแสนทรหด · วันยุทธการที่บริเตน) · ปฏิบัติการสิงโตทะเล |
ค.ศ. 1942–1943 | |
ค.ศ. 1944–1945 | ปฏิบัติการโอเวอร์ลอร์ด · ปฏิบัติการดรากูน · การรุกจากปารีสถึงแม่น้ำไรน์ · ปฏิบัติการมาร์เก็ตการ์เดน (ยุทธการที่อาร์เนม) · ยุทธการที่อาเคิน · ปฏิบัติการเช็ลด์ท · ยุทธการตอกลิ่ม · การบุกครองเยอรมนี |
Text is available under the CC BY-SA 4.0 license; additional terms may apply.
Images, videos and audio are available under their respective licenses.