เอกภาพ พลซื่อ (เกิด 5 กันยายน พ.ศ. 2502) เป็นข้าราชการการเมือง ตำแหน่งประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีอดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดร้อยเอ็ด^[1] อดีตเลขาธิการพรรคเสรีธรรม อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดร้อยเอ็ด และอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย (เป็นหนึ่งในสมาชิกบ้านเลขที่ 111)

เอกภาพ พลซื่อ เกิดเมื่อวันที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2502 ที่อำเภอเมยวดี จังหวัดร้อยเอ็ด เป็นบุตรของอุ่น กับทองดา พลซื่อ^[2] จบการศึกษาปริญญาตรีนิติศาสตรบัณฑิต จากมหาวิทยาลัยรามคำแหง และปริญญาโทศิลปศาสตรมหาบัณฑิต จากมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ด้านชีวิตครอบครัวสมรสกับ รัชนี พลซื่อ ข้าราชการการเมือง ตำแหน่งประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ^[3]ใน รัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดร้อยเอ็ด^[4]มีบุตรชื่อ เอกรัฐ พลซื่อ เป็นข้าราชการการเมือง ตำแหน่งประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน

เอกภาพ พลซื่อ ประกอบอาชีพทนายความ กระทั่งเข้ามาสู่วงการการเมือง โดยได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดร้อยเอ็ด สังกัดพรรคเอกภาพ ในการเลือกตั้ง เดือนกันยายน พ.ศ. 2535 และได้รับเลือกตั้งเรื่อยมา เคยได้รับแต่งตั้งเป็นเลขาธิการพรรคเสรีธรรม ในระหว่างปี พ.ศ. 2539 จนกระทั่งยุบรวมเข้ากับพรรคไทยรักไทย ในปี พ.ศ. 2544 ต่อมาในปี พ.ศ. 2550 ได้ถูกตัดสิทธิทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี เนื่องจากเป็นกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยซึ่งถูกยุบในคดียุบพรรคการเมือง พ.ศ. 2549^[5] ต่อมาในปลายปี พ.ศ. 2556 เขาได้เข้าเป็นสมาชิกพรรคชาติไทยพัฒนา^[6]

ต่อมาปี 2562 เขาได้ลงสมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขต จังหวัดร้อยเอ็ดในสังกัดพรรคพลังประชารัฐ แต่ไม่ได้รับเลือกตั้ง

และในปี 2563 เขาได้รับเลือกตั้งเป็นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดร้อยเอ็ด ในการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดในประเทศไทย พ.ศ. 2563 ต่อมาเขาถูกศาลพิพากษาตัดสิทธิ์ทางการเมือง พร้อมชดใช้ค่าเสียหายการเลือกตั้งให้ กกต. จากกรณีการปราศัยหาเสียงโดยมิชอบ^[7]

• พ.ศ. 2546 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นสูงสุด มหาปรมาภรณ์ช้างเผือก (ม.ป.ช.)^[8]
• พ.ศ. 2543 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นสูงสุด มหาวชิรมงกุฎ (ม.ว.ม.)^[9]

ก่อนหน้า		เอกภาพ พลซื่อ		ถัดไป
พินิจ จารุสมบัติ		เลขาธิการพรรคเสรีธรรม (29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2539 – 6 กันยายน พ.ศ. 2544)		ยุบพรรค