For faster navigation, this Iframe is preloading the Wikiwand page for รอยขูดขีดเขียน.

รอยขูดขีดเขียน

การพ่นสีรอยขูดขีดเขียนบนกำแพง

รอยขูดขีดเขียน (อังกฤษ: graffiti) เป็นภาพวาดที่เกิดจากการขีดเขียนไปบนผนัง คำ "graffiti" เป็นคำศัพท์ที่มาจากภาษากรีก grafito ซึ่งแปลว่าการเขียนภาพลงบนผนังหรือกำแพงในสมัยโบราณ โดยที่รู้จักกันทั่วไปจะมีลักษณะของการพ่น (bombing) เซ็นชื่อ หรือเป็นการเซ็นลายเซ็น โดยเริ่มต้นจากเมืองฟิลาเดลเฟียในรัฐเพนซิลเวเนีย สหรัฐอเมริกา จากนั้นจึงแพร่หลายในนิวยอร์กช่วงยุคคริสต์ทศวรรษที่ 60

ความหมาย

[แก้]

จากหนังสือ Freight Train Graffitti ให้คำนิยามรอยขูดขีดเขียนว่า "รอยขูดขีดเขียนถือเป็นวัฒนธรรมนอกกระแสที่เปรียบได้กับสัญลักษณ์ของความเป็น ขบถ ราวกับว่ามันก่อให้เกิดความรู้สึกซาบซ่าน เป็นสุข เมื่อยามที่ศิลปินรอยขูดขีดเขียนได้ท้าทายต่ออำนาจของเจ้าหน้าที่รัฐที่พยายามกีดกันกำจัดรอยขูดขีดเขียนให้หมดไป"

ขณะที่ นิโคลัส แกนซ์ ผู้เขียน Graffiti World อธิบายไว้ว่า คำว่า graffitti ที่มาจาก graffitto ในภาษาอิตาลี ที่แปลว่า รอยจารึก หรือ รอยขีดข่วน อาจกล่าวได้ว่ารอยขูดขีดเขียนถือกำเนิดขึ้นบนโลกมานานแล้ว พร้อมๆ กับกำเนิดของอารยธรรมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นอักษรฮีโรกลิฟฟิก ภาพเขียนสีตามผนังถ้ำ ก็อาจถือว่าเป็นรอยขูดขีดเขียนได้เช่นกัน

ประวัติ

[แก้]

จากตำรารอยขูดขีดเขียนไม่น้อยระบุไว้ตรงกันว่า รอยขูดขีดเขียนเริ่มต้นขึ้นในเมืองฟิลาเดลเฟียในช่วงทศวรรษที่ 60 ก่อนจะแพร่เข้ามายังนิวยอร์กในทศวรรษต่อมา สาเหตุการเกิดของรอยขูดขีดเขียนนั้น ในยุคสมัยที่การเหยียดสีผิวเป็นไปอย่างเข้มข้น ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ในปี ค.ศ. 1954 ที่ผู้ปกครองนักเรียนผิวสีรวมตัวเรียกร้องขอความเป็นธรรม กรณีที่คณะกรรมการโรงเรียนแห่งรัฐแคนซัสปฏิเสธที่จะรับเด้กผิวสีเข้าศึกษา และในปีถัดมา สตรีผิวสีนาม โรซา พาร์กส ที่เธอถูกตัดสินมีความผิดฐานละเมิดกฎหมายที่จะสละที่นั่งของเธอให้บุรุษผิวขาวตามที่กฎหมายของรัฐกำหนด เป็นที่มาของการเคลื่อนไหวให้เกิดการปฏิรูปกฎหมายว่าด้วยสิทธิพลเมือง จนกระทั่งเกิดกฎหมายนี้ขึ้นในปี ค.ศ. 1964 แต่ว่าคนผิวสีก็ยังตกอยู่ในสภาพคนชายขอบของสังคม ได้เป็นแรงผลักดันให้พวกเขาสร้างสรรค์งานศิลปะ ทั้งเพลงบลูส์ แจ๊ซ และเร้กเก้ และอีกด้านหนึ่งของคนผิวสีที่ต้องเผชิญ พวกเขาได้แสดงออกมาอย่างเกรี้ยวกราด ดิบหยาบ ประกาศให้เห็นถึงความ ขบถ ดังเช่น ดนตรีแร็ปที่เต็มไปด้วยคำด่าทอสังคมอย่างไม่เกรงกลัว รอยขูดขีดเขียนถือกำเนิดมาในยุคสมัยนี้

ในช่วยปลายทศวรรษที่ 60 รอยขูดขีดเขียนเดินทางเข้าสู่นิวยอร์ก โดย JULIO204 ไรเตอร์จากสลัมย่านบรองซ์นำเข้าไปเผยแพร่ ต่อมาในปี ค.ศ. 1969 ที่นิวยอร์ก "ทากิ" ไรเตอร์ชื่อดังที่ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งการเริ่มต้นยุคสมัยของเหล่าไรเตอร์หรือนักเขียนรอยขูดขีดเขียนโดยแท้จริง เมื่อคำว่า TAKI 183 ของเขา ได้รับการสัมภาษณ์และเปิดเผย ตีพิมพ์ภาพลายเซ็นของเขาในหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์ส คำว่า TAKI 183 ที่เขาเขียนปรากฏให้เห็นทั้งในรถไฟใต้ดินและสถานที่สำคัญอย่างบรอดเวย์ สนามบินเคนเนดี รวมทั้งที่ต่าง ๆ ทั้งในนิวเจอร์ซีย์ คอนเนตทิคัต และสถานที่อื่น ๆ ทั่วนิวยอร์ก

หลังจากหนังสือพิมพ์ฉบับนี้ได้วางแผง วัยรุ่นจำนวนไม่น้อยต่างประทับใจในชื่อเสียงของทากิ พวกเขาจึงเริ่มเขียนชื่อของตัวเองตามสถานที่สาธารณะ จนค่อย ๆ ได้รับความนิยมและคึกคักในเวลาต่อมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงต้นทศวรรษที่ 70 รอยขูดขีดเขียนได้ถูกเขียนเต็มไปหมดจากไรเตอร์อย่าง TRACY168 StayHigh149 และ PHASE2 เริ่มเขียน "tag" (แท็ก) หรือลายเซ็นของตนตามโบกี้รถไฟ

ในปี ค.ศ. 1972 TOPCAT ได้นำเทคนิคใหม่ เข้าสู่นิวยอร์ก คือตัวอักษรยาว ๆ เก้งก้างเต็มพื้นที่คอนเทนเนอร์รถไฟ ต่อมารูปแบบนี้ได้รับความนิยมจากเหล่าไรเตอร์นิวยอร์ก และเรียกว่าเป็น "Broadway Elegant" ซึ่งมีลักษณะเป็นตัวอักษรที่เขียนต่อก่อเป็นแถวยาว ๆ

ปี ค.ศ. 1973 รอยขูดขีดเขียนปรากฏอยู่แทบทุกซอกมุมตึกในนิวยอร์ก ดังที่ ริชาร์ด โกด์สไตน์ เขียนลงนิวยอร์กแม็กกาซีนไว้ว่า "ดูเหมือนเหล่าวัยรุ่นหนุ่ม ๆ แทบจะไม่สนใจอะไรเลย นอกจากมองหาทำเลที่พวกเขาจะพ่นรอยขูดขีดเขียน" โกลด์สไตน์เองได้จัดให้มีการประกวดรางวัล "ทากิอวอร์ด" ขึ้นเพื่อคัดเลือกรอยขูดขีดเขียนที่เขาคิดว่าดีที่สุดในขณะนั้น โกลด์สไตน์กล่าวอีกว่า กระแสความคลั่งไคล้รอยขูดขีดเขียนในขณะนั้น ไม่ต่างจากความบ้าคลั่งที่พวกเขามีต่อดนตรียุคร็อกแอนด์โรลในยุคทศวรรษที่ 50 เลย

รอยขูดขีดเขียนได้รับความนิยมขึ้นอีก เมื่อไรเตอร์จากประเทศต่าง ๆ หรือแต่ละท้องถิ่นนำผลงานของตนไปเผยแพร่ตามที่ต่างๆ จากทั่วสหรัฐอเมริกาถูกส่งต่อไปหลายประเทศในยุโรป นอกจากนั้นยังมีการจัดกิจกรรมเกี่ยวกับรอยขูดขีดเขียนขึ้นอย่างต่อเนื่องที่ แอลเอ นิวยอร์ก หรือย่านมิดเวสต์ โดยงานแรก ๆ ที่ถูกบันทึกไว้คืองาน Frame Exhibition ที่แอลเอราวปี ค.ศ. 1988 และในปี ค.ศ. 1993-1996 Chicago Transit Authority (CTA) รับเป็นผู้สนับสนุนหลักในการจัดการแข่งขันรอยขูดขีดเขียน โดยผู้ชนะเลิศจะได้ทุนการศึกษาและได้เข้าเรียนในโรงเรียนสอนศิลปะ นับเป็นตัวอย่างแรก ๆ ของการนำรอยขูดขีดเขียนเข้าสู่ "พื้นที่จัดวาง" อย่างเป็นระบบ

กระแสรอยขูดขีดเขียนในระดับสากลได้เกิดขึ้นเมื่อเว็บไซต์รอยขูดขีดเขียน ที่ชื่อ Art Crimes ในโลกออนไลนด์เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อเดือน กันยายน ปี ค.ศ. 1994 โดยในปี 1999 อาร์ตไครมส์อ้างว่าเว็บไซต์ของเขามีภาพรอยขูดขีดเขียนมากกว่า 3,000 ภาพจาก 205 เมือง ใน 43 ประเทศทั่วโลก ซึ่งการเกิดของอาร์ตไครมส์ได้เกิดไรเตอร์หน้าใหม่และนิตยสารเกี่ยวกับรอยขูดขีดเขียนแพร่หลายขึ้น

ทุกวันนี้รอยขูดขีดเขียนพัฒนากลายเป็นแฟชั่นที่พบเห็นในชีวิตประจำวัน ทั้งลวดลายแท็กที่พบตามเสื้อผ้าแนวสตรีตอาร์ตไม่ว่าจะเป็นรองเท้าผ้าใบ ไปจนถึงมิวสิกวิดีโอโดยศิลปินฮิปฮอปในเอ็มทีวี ซึ่งมักมีภาพรอยขูดขีดเขียนปรากฏเป็นแบ็กกราวด์

ประเภทของกราฟฟิตี้

[แก้]
  • "Tag" คือการเซ็นลายเซ็นหรือนามแฝงของแต่ละคนโดยสเปรย์กระป๋อง หรือ ปากกา ส่วนมากใช้สีเดียว บางคนอาจพ่นเป็นตัวอักษรธรรมดา ขณะที่บางคนดีไซน์ให้เป็นตัวอักษรที่เกาะเกี่ยวกันจนอ่านไม่ออก เน้นให้ดูแปลกและสะดุดตา
  • "Throw-ups" คือการเขียนเร็ว ๆ ด้วยสีพื้นฐาน จำนวนน้อยสีนิยมใช้สีขาวดำ แสดงให้เห็นเส้นสายที่รวดเร็ว เป็นการเขียนตัวอักษรน้อยตัว มีเส้นตัดขอบเพื่อให้ดูมีมิติ ไม่เน้นความสวยงาม เพราะต้องทำแข่งกับเวลา
  • "Fill-in" หรือ "Piece" คือ "Throw-ups" ที่ซับซ้อนขึ้น เป็นผลงานของไรเตอร์คนเดียว เป็นการพ่นสีสเปรย์ให้เป็นภาพหรือตัวอักษรที่สวยงาม ใช้เวลานานในการสร้างสรรค์ เพื่อให้ผลงานออกมาสมบูรณ์
  • "Block" หรือ "Bubble" การเขียน Tag ที่ดูมีมิติมากขึ้น ใช้สีประมาณ 3 สี หรือมากกว่านั้น
  • "Wildstyle" หรือ "Wickedstyle" เป็นสไตล์ที่ซับซ้อนขึ้น มีการเกาะเกี่ยวกันของตัวหนังสือ ลักษณะการเขียนประเภทนี้จะอ่านค่อนข้างยาก เพื่อแสดงความเหนือชั้นของการดีไซน์
  • "Blockbuster" คือ "Fill-in" ที่เขียนที่ตั้งใจเขียนทั้งผนัง
  • "Character" คือการพ่นเป็นรูปคน หรือ คาแร็กเตอร์ต่าง ๆ ไม่วาจะเป็นตัวการ์ตูน หรือเป็นภาพเสมือนจริงของดารา-นักร้องในดวงใจ หรืออาจเป็นตัวการ์ตูนที่ไรเตอร์ออกแบบเองเพื่อเป็นสัญลักษณ์ประจำตัวของไรเตอร์คนนั้น ๆ
  • "Production" คือ การรวมรอยขูดขีดเขียนทุกรูปแบบไว้ด้วยกัน เกิดจากการรวมที่ไรเตอร์หลายคนหรือหลายกลุ่มนัดกันสร้างผลงานร่วมกัน โดยมีธีมไปในทิศทางเดียวกันหรือสอดคล้องกัน เช่น นัดกันพ่นคาแร็กเตอร์ประจำตัวของไรเตอร์แต่ละคนหรือพ่นชื่อกลุ่ม ชื่อตัวเอง หรือเปล่าไรเตอร์อาจร่วมกันกำหนดวาระต่าง ๆ ขึ้นเอง

รอยขูดขีดเขียนในประเทศไทย

[แก้]

รอยขูดขีดเขียนในประเทศไทยมีให้เห็นเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะกรุงเทพมหานคร ซึ่งจะพบเห็นตามอาคารหรือกำแพงที่ถูกทิ้งร้าง รวมถึงกำแพงและอาคารที่ยังมีผู้อยู่อาศัยด้วย ส่วนใหญ่รอยขูดขีดเขียนในประเทศไทยยังเป็นการแสดงออกทางศิลปะเท่านั้น ยังไม่มีการเสียดสีหรือล้อเลียนเรื่องราวต่างๆ ในสังคมมากนัก

หลังจากที่รอยขูดขีดเขียนครองความนิยมในหมู่วัยรุ่นไทยและได้พัฒนาขึ้นมาก ได้มีการประกวดรอยขูดขีดเขียนหรืองานแสดงสินค้า งานอีเวนต์ต่าง ๆ ที่นำรอยขูดขีดเขียนไปแสดง ไม่ว่าจะเป็นงาน Battle of the year ที่งานจัดประกวดรอยขูดขีดเขียน งาน MBK Graffitti Lesson 1 ที่จัดประกวดแข่งขันโชว์การพ่นรอยขูดขีดเขียนแนวสตรีทอาร์ต และเว็บไซต์กระปุกดอตคอมและพันธมิตรได้เคยร่วมจัดประกวดรอยขูดขีดเขียนพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รวมถึงงานแสดงนิทรรศการศิลปะ Keep on Keeping on เป็นต้น ซึ่งจากการจัดงานประกวดนี้เอง ไรเตอร์จำนวนไม่น้อยสามารถยึดรอยขูดขีดเขียนเป็นอาชีพหาเลี้ยงตัวเองได้อย่างสุจริต เช่นการนำรอยขูดขีดเขียนมาใช้ออกแบบร้านเสื้อผ้าแนวสตรีทอาร์ต ออกแบบร้านสเก็ตบอร์ด อย่างเช่น เอ็ม แห่งวงบุดด้า เบลส ที่เคยยึดเป็นอาชีพ

ในช่วงเหตุระเบิดในกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2549 ที่เกิดเหตุระเบิดกลางกรุง 8 จุด เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แถลงข่าวว่าพบเบาะแสที่น่าจะเป็นของคนร้าย คือตัวอักษรซึ่งถูกเขียนบนตู้โทรศัพท์ คาดว่าอาจเป็นร่องรอยที่กลุ่มมือวางระเบิดทิ้งเอาไว้เพื่อส่งสัญญาณบางอย่าง คือตัวอักษรภาษาอังกฤษที่คล้าย IRK เกาะเกี่ยวกัน ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ตำรวจวิเคราะห์ว่า สัญลักษณ์ดังกล่าวจะเป็นของ JI หรือกลุ่มเจมาห์ อิสลามิยาห์ กลุ่ม RKK หรืออาจโยงใยไปได้ถึงกบฏ IRA ซึ่งจริง ๆ แล้วตัวหนังสือภาษาอังกฤษที่คล้าย IRK นั้นคือแท็กที่เขียนว่า IRIE หรือรอยขูดขีดเขียนแบบหนึ่งที่พบเห็นได้บ่อย

อ้างอิง

[แก้]
  • นิตยสารสารคดี ฉบับที่ 271 เดิอนกันยายน พ.ศ. 2550 หน้า 138-172

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]
{{bottomLinkPreText}} {{bottomLinkText}}
รอยขูดขีดเขียน
Listen to this article

This browser is not supported by Wikiwand :(
Wikiwand requires a browser with modern capabilities in order to provide you with the best reading experience.
Please download and use one of the following browsers:

This article was just edited, click to reload
This article has been deleted on Wikipedia (Why?)

Back to homepage

Please click Add in the dialog above
Please click Allow in the top-left corner,
then click Install Now in the dialog
Please click Open in the download dialog,
then click Install
Please click the "Downloads" icon in the Safari toolbar, open the first download in the list,
then click Install
{{::$root.activation.text}}

Install Wikiwand

Install on Chrome Install on Firefox
Don't forget to rate us

Tell your friends about Wikiwand!

Gmail Facebook Twitter Link

Enjoying Wikiwand?

Tell your friends and spread the love:
Share on Gmail Share on Facebook Share on Twitter Share on Buffer

Our magic isn't perfect

You can help our automatic cover photo selection by reporting an unsuitable photo.

This photo is visually disturbing This photo is not a good choice

Thank you for helping!


Your input will affect cover photo selection, along with input from other users.

X

Get ready for Wikiwand 2.0 🎉! the new version arrives on September 1st! Don't want to wait?